รัสเซียในศตวรรษที่ 8 ยังคงเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยชนเผ่าต่างๆ ที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกัน ชาวสลาฟตะวันออกอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ และยังไม่มีความสามัคคีหรือการรวมตัวทางการเมืองที่แข็งแกร่ง
ในบรรดาชนเผ่าเหล่านี้ มีกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง - ชาวVarangian นักรบและพ่อค้าจากแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเดินทางมาถึงดินแดนรัสเซียนทางเรือไปตามแม่น้ำต่างๆ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินเรือและการต่อเรือ เป็นนักรบที่เก่งกาจ และมีความรู้ด้านการค้าขาย
จากการเดินทางและการติดต่อกับชาวสลาฟตะวันออก ชาวVarangian ตระหนักถึงศักยภาพของดินแดนนี้ พวกเขาเห็นโอกาสในการสร้างเส้นทางการค้าที่เชื่อมโยงไปยังดินแดนอื่นๆ และทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนสินค้า
ในปี ค.ศ. 862 Rurik ผู้นำชาวVarangian ได้ตั้งรกรากในNovgorod ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำVolkhov เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเมืองของชาวสลาฟตะวันออก และต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองหลวงของรัสเซียโบราณ
การก่อตั้งNovgorod เป็นเหตุการณ์สำคัญหลายประการ:
-
การรวมตัวของชนเผ่า: การมาถึงของชาวVarangian ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างชนเผ่าสลาฟตะวันออก ซึ่งเดิมทีแยกย้ายกันอยู่ พวกเขาได้รวมตัวกันภายใต้การนำของ Rurik
-
**การพัฒนาการค้า:**Novgorodกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ มีการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวสลาฟตะวันออก ชาวVarangian และพ่อค้าจากดินแดนอื่นๆ
-
การเผยแผ่ศาสนา: รัสเซียในช่วงนั้นยังคงนับถือศาสนาของชนเผ่าดั้งเดิม การมาถึงของชาวVarangian ได้นำไปสู่การเผยแผ่ศาสนาคริสต์แบบออร์โธดอกซ์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นศาสนาหลักของรัสเซีย
Novgorod: เมืองแห่งไม้และหิน Novgorod เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ใกล้กับแม่น้ำVolkhov ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบIlmen
ในสมัยนั้นNovgorodถูกสร้างขึ้นด้วย gỗ แต่ต่อมาได้มีการสร้างกำแพงหินและปราการเพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู
ชีวิตประจำวันของชาวNovgorod ชาวNovgorodส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและเกษตรกรรม พวกเขาปลูกข้าวrye, ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโอ๊ต ซึ่งเป็นพืชที่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น
นอกจากการเกษตรแล้ว ชาวNovgorodยังมีฝีมือในการทำเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องจักสาน
Novgorod เป็นเมืองที่คึกคักและมีชีวิตชีวา มีการจัดงานรื่นเริงและพิธีกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี
ความตกต่ำของNovgorod
ในศตวรรษที่ 15 Novgorodเริ่มอ่อนแอลงเนื่องจากการมาถึงของเจ้าผู้ครอง MOSCOW ซึ่งเป็นเมืองคู่แข่งทางการเมือง และการก่อตั้งแคว้นรัสเซีย
ในที่สุด Novgorod ก็ถูกยึดครองโดย MOSCOW ในปี ค.ศ. 1478 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นรัสเซีย
มรดกของNovgorod
แม้ว่า Novgrod จะสูญเสียสถานะเป็นเมืองหลวงไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเมืองที่สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย
Novgorod เป็นตัวอย่างของความสามารถในการรวมตัวกันของชนเผ่าต่าง ๆ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
เมืองนี้มีโบราณสถานและศาสนสถานที่สวยงาม เช่น St. Sophia Cathedral และ Kremlin ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม UNESCO
Novgorod เป็นสัญลักษณ์ของอดีตอันรุ่งเรืองของรัสเซีย และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวและนักประวัติศาสตร์